ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ภาคผนวก ข. สาย UTP หลายคู่ที่ใช้เปลือกร่วมกัน

ภาคผนวกนี้ใช้เป็นข้อมูลเท่านั้นและไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานนี้
ข.1     ทั่วไป
            ในภาคผนวกนี้จะเป็นแนวทางและระยะทางในการติดตั้งแบบทั่วไปวึ่งไม่ได้ครอบคลุมการประยุกต์ใช้งานทุกอย่าง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมจะแนะนำให้ปรึกษาผู้ผลิตอุปกรณืนั้นๆหรือผู้ให้บริการ ส่วนเรื่องระยะทางในการติดตั้งสายสัญญาณให้ดูที่ข้อย่อย 5.5.1

ข.2      แนวทางการใช้งาน
            มีหลายหัวข้อที่นำมาใช้พิจารณาว่าควรใช้สายสัญญาณประเภทนี้หรือไม่ ซึ่งจะยกหัวข้อพิจารณาที่าสำคัญมาดังนี้
            ก) ระดับการส่งสัญญาณ
            ข) รูปแบบของสัญญาณ
            ค) สภาพทนทานของโปรโตคอล
            ง) ความไวของเครื่องรับ

            โดยทั่วไปเมื่อใช้งานที่มีความถี่ต่างกันมักจะไม่เกิดการรบกวนกัน รวมถึงที่ฝั่งรับถ้ามีความกว้างของแบนด์วิธที่พอดีแล้วจะมีโอกาสที่เกิดสัญญาณรบกวนที่ข้ามจากระบบหนึึ่งไปอีกระบบน้อยมาก บางกรณีที่มีการใช้ความถี่เดียวกันที่ใช้อยู่ในระบบสายสัญญาณ ในกรณีนี้จำเป็นต้องทราบรูปแบบของสายสัญญาณเช่นแบบเบริสต์, แบบต่อเนื่อง, แบบซิงโครไนซ์หรือแบบสุ่ม ควรจะศึกษาข้อมูลเหล่านี้เพื่อประกอบการตัดสิน
            ตัวอย่างที่ดีที่สุดคือมาตรฐาน 10BASE-T   ซึ่งได้คิดผลกระทบทั้งหมดที่ได้กล่าวไปแล้ว 10BASE-T จำนวน 12 ระบบสามารถใช้ร่วมกับสาย UTP CAT 3 หลายคู่ บางตัวอย่าง ใช้สำหรับงานเฉพาะอย่างสำหรับกลุ่มสาย CAT 3 ดังนี้

            ก) EIA2323 และงานประยุกต์ ISDN ควรอยู่ในกลุ่มที่แยกออกจากกัน
            ข) สายสัญญาณชนิด 3270 ที่แปลงเป็นสายคู่ตีเกลียว 100 โอหืม ไม่ควรจะรวมกับระบบ 10BASE-T เพราะมีความสามารถในการขจัดสัญญาณที่มีความเสี่ยง
            ค) สัญญาณจากแม่ข่ายที่มีหลายการควบคุมไม่ควรอยู่กลุ่มเดียวกัน
            ง) สัญญาณที่มีกำลังต่ำไม่ควรอยู่กลุ่มเดียวกัน

            ประสิทธิภาพของสาย CAT  5e   จะดีกว่าสาย CAT 3  อย่างมากเมื่อใช้งานที่รับส่งด้วยอัตราเร็ว 10  Mb/s

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

10. ข้อกำหนดในการติดตั้งระบบสายสัญญาณภายหลังการติดตั้งคือสายสัญญาณ

10.1     ทั่วไป             สำหรับการติดตั้งนอกจากจะต้องดำเนินการตามมารตรฐานนี้แล้วยังต้องติดตั้งตามข้อกำหนดและระเบียบในการติดตั้งที่ถือปฎิบัติในแต่ละท้องที่อีกด้วย 10.1.1  การเดินสายสัญญาณแนวราบและสายสัญญาณหลัก             ควรจะเริ่มประเมินว่าจะติดตั้งสายสัญญาณได้ถูกต้องตามแบบที่ได้กำหนดไว้ และความเค้นในสายควรจะมีน้อยที่สุด (ความเค้นเกิดจากแรงดึงในการดึงและขึงสายสัญญาณ ในการติดดตั้งหรือการรัดสายเนื่องจากการมัดสาย) สายรัดสายสัญญาณที่ใช้รัดรวมสายสัญญาณควรจะรัดให้หลวมพอที่สายสัญญาณจะสามารถเลื่อนไปตามสายได้บ้าง ไม่ควรจะรัดจนสายเสียรูปไป (ต้องศึกษาข้อกำหนดการติดตั้งและกฎระเบียบก่อนการติดตั้ง) 10.2     สายตีเกลียว 100 โอห์ม (สายยูทีพี : สายตีเกลียวไม่มีชิลด์) หรือสายเอสซีทีพี  (สายตีเกลียวหุ้มฟอยล์) 10.2.1  รัศมีความโค้งงอที่ต่ำที่สุด             รัศมีความโค้งงอที่ต่ำที่สุดของสายสัญญาณจะขึ้นอยู่กับสภาพของสายสัญญาณขณะที่ทำการติดตั้งคือมีแรงดึงมากระทำกับสายสัญญ...

4. การติดต้้งระบบสายสัญญาณ

4.1       ทั่วไป             การติดตั้งสายสัญญาณแนวราบเป็นส่วนหนึ่งของการติดตั้งระบบสายสัญญาณที่ใช้ในการสื่่อสารคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม โดยเป็นการติดตั้งสายสัญญาณจากจุดรวมการสื่อสารไปยังเต้ารับ หรือขั้วต่อในพื้นที่ใช้งาน ซึ่งประกอบด้วยสายสัญญาณแนวราบ เต้ารับ การเชื่อมต่อสายเชือมต่อหรือสายต่อในจุดรวมการสื่อสาร และอาจจะถึงกลุ่มเต้ารับ หรือจุดศูนย์รวมเต้ารับก็ได้             (คำว่า "แนวราบ" ใช้กับสายสัญญาณที่เดินตามแนวราบหรือแนวนอนในขั้วหรือใต้ฝ้าของอาคาร)             การออกแบบการติดตั้งสายสัญญาณในแนวราบเทียบกับการใช้งานในระบบต่างๆ ดังนี้             ก) ระบบการสื่อสารทางโทรศัพท์             ข) อุปกรณ์ต่อเชื่อมระบบสลับสาย             ค) ระบบการสื่อสารผ่านคอมพิวเตอร์             ง) ระบบแลน (Local area Network)             จ)...

การคำนวณค่า Loss ของ Fiber Optic

ตัวอย่าง : (คำนวณที่ wavelength 1300 nm ตามมาตรฐาน TIA/EIA-568-B.3   ติดตั้งสาย Multimode 50/125 ohm ยาว 500 เมตร มีจุดต่อแบบ Splice 1 จุด ต่อ และมีจุดต่อแบบ Adapter 2 จุดต่อที่ Patch Panel ให้คำนวณหาค่า Loss                                              Limit                        Q’TY                          Loss Fiber Loss                          1.5 dB/km           ...