ภาคผนวกนี้ใช้เป็นข้อมูลเท่านั้นและไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานนี้
จ.1 ทั่วไป
ในภาคผนวกนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สายใยแก้วนำแสงในระบบสื่่อสาร ซึ่งจะมีข้อมูลของสายใยแก้วนำแสงทุกชนิดที่ยอมรับในมาตรฐานนี้ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้สายใยแก้วนำแสงได้ถูกประเภทและสามารถออกแบบระบบได้ ซึ่งในภาคผนวกนี้ไม่ได้บังคับแนวทางการออกแบบระบบของผู้ใช้งาน ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกใช้งานสายใยแก้วนำแสงคือระยะทางที่ไกลที่สุดที่ใช้งานได้และค่าการลดทอนสูงสุด
ปัจจัยแรกเรื่องระยะทางที่ไกลที่สุดที่ใช้งานได้จะขึ้นอยู่กับค่าแบนด์วิธ์ ความสามรถของตัวส่งและรับสัญญาณ,ค่าเวลาที่สัญญาณใช้เดินทางจากปลายด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งมค่าผิดพลาดทางเวลา (Jitter) และปัจจัยอื่นๆระยะทางไกลที่สุดได้ถูกกำหนดด้วยมาตรฐานการใช้งานในรูปแบบต่างๆซึ่ง ตารางที่ จ- 1 จะแสดงระยะทางสูงที่สุดที่ใช้สายใยแก้วนำแสงได้โดยใช้เกณฑ์สมรรถนะขั้นต่ำของสายใยแก้วมัลติโหมดนำแสงชนิด 62.5/125 µm สายใยแก้วนำแสงซิงเกิลโหมดที่รองรับด้วยมาตรฐาน ANSI/TIA/EIA-568-B.3
ปัจจัยที่สองการลดทอน คือผลต่างของกำลังที่ต่ำที่สุดที่ฝั่งส่งไปในสายใยแก้วนำแสงและฝั่งรับรับได้ซึ่งจะไม่คิดกำลังชดเชยใดๆในระบบ เช่นจำนวนขั้วต่อม การเชื่อมต่อแบบสไปซ์,ระยะทางและความยาวคลื่นที่ใช้งานสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็มีผลต่อการลดทอนของสัญญาณทั้งสิ้น ในตารางที่ จ-1 จะแสดงค่าการลดทอนสูงสุดที่แบ่งตามชนิดของสายใยแก้วนำแสงและความยาวคลื่นที่ใช้ ส่วนสมการที่ จ.2จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้ทราบว่าระบบที่ได้ติดตั้งไปนั้นยังอยู่ภายใต้ค่าการลดทอนสูงสุดที่ได้กำหนดไว้หรือไม่
จ.2 ระยะทางสูงสุดและค่าการลดทอนในสายสัญญาณ
ในตารางที่ จ.1 ระบุระยะทางสูงสุดและค่าการลดทอนในสายสัญญาณของสายใยแก้วนำแสงโดยแบ่งตามรูปแบบการใช้งานการใช้งานจะอยู่ภายใต้การรองรับของมาตรฐานอุตสาหกรรมและชื่อสามัญทั่วไป ส่วนเรื่องอัตราเร็วในการรับส่งข้อมูลจะขึ้นกับอัตราการรับ-ส่งข้อมูลและวิธีการเข้ารหัสในการส่งข้อมูล ข้อกำหนดต่างๆนี้ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงไปทำให้มีผลต่อระยะทางสูงสุดและค่าการลดทอนในสายสัญญาณด้วย
จ.1 ทั่วไป
ในภาคผนวกนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สายใยแก้วนำแสงในระบบสื่่อสาร ซึ่งจะมีข้อมูลของสายใยแก้วนำแสงทุกชนิดที่ยอมรับในมาตรฐานนี้ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้สายใยแก้วนำแสงได้ถูกประเภทและสามารถออกแบบระบบได้ ซึ่งในภาคผนวกนี้ไม่ได้บังคับแนวทางการออกแบบระบบของผู้ใช้งาน ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกใช้งานสายใยแก้วนำแสงคือระยะทางที่ไกลที่สุดที่ใช้งานได้และค่าการลดทอนสูงสุด
ปัจจัยแรกเรื่องระยะทางที่ไกลที่สุดที่ใช้งานได้จะขึ้นอยู่กับค่าแบนด์วิธ์ ความสามรถของตัวส่งและรับสัญญาณ,ค่าเวลาที่สัญญาณใช้เดินทางจากปลายด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งมค่าผิดพลาดทางเวลา (Jitter) และปัจจัยอื่นๆระยะทางไกลที่สุดได้ถูกกำหนดด้วยมาตรฐานการใช้งานในรูปแบบต่างๆซึ่ง ตารางที่ จ- 1 จะแสดงระยะทางสูงที่สุดที่ใช้สายใยแก้วนำแสงได้โดยใช้เกณฑ์สมรรถนะขั้นต่ำของสายใยแก้วมัลติโหมดนำแสงชนิด 62.5/125 µm สายใยแก้วนำแสงซิงเกิลโหมดที่รองรับด้วยมาตรฐาน ANSI/TIA/EIA-568-B.3
ปัจจัยที่สองการลดทอน คือผลต่างของกำลังที่ต่ำที่สุดที่ฝั่งส่งไปในสายใยแก้วนำแสงและฝั่งรับรับได้ซึ่งจะไม่คิดกำลังชดเชยใดๆในระบบ เช่นจำนวนขั้วต่อม การเชื่อมต่อแบบสไปซ์,ระยะทางและความยาวคลื่นที่ใช้งานสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็มีผลต่อการลดทอนของสัญญาณทั้งสิ้น ในตารางที่ จ-1 จะแสดงค่าการลดทอนสูงสุดที่แบ่งตามชนิดของสายใยแก้วนำแสงและความยาวคลื่นที่ใช้ ส่วนสมการที่ จ.2จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้ทราบว่าระบบที่ได้ติดตั้งไปนั้นยังอยู่ภายใต้ค่าการลดทอนสูงสุดที่ได้กำหนดไว้หรือไม่
จ.2 ระยะทางสูงสุดและค่าการลดทอนในสายสัญญาณ
ในตารางที่ จ.1 ระบุระยะทางสูงสุดและค่าการลดทอนในสายสัญญาณของสายใยแก้วนำแสงโดยแบ่งตามรูปแบบการใช้งานการใช้งานจะอยู่ภายใต้การรองรับของมาตรฐานอุตสาหกรรมและชื่อสามัญทั่วไป ส่วนเรื่องอัตราเร็วในการรับส่งข้อมูลจะขึ้นกับอัตราการรับ-ส่งข้อมูลและวิธีการเข้ารหัสในการส่งข้อมูล ข้อกำหนดต่างๆนี้ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงไปทำให้มีผลต่อระยะทางสูงสุดและค่าการลดทอนในสายสัญญาณด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น