ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ภาคผนวก ก. ระบบสายใยแก้วนำแสงแบบรวมศูนย์นี้ระบุวิธีการเชื่อม

ภาคผนวกนี้ใช้บังคับแและได้รับการพิจารณาให้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานนี้
ก.1      บทนำ
            ผู้ใช้งานจำนวนมากมีการจัดการระบบเครือค่ายการสื่อสารโดยมีการออกแบบให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกศ์ทั้งแบบรวมศูนย์และแบบกระจายภายในอาคาร และการใช้สายสัญญาณประเภทสายใยแก้วนำแสงแบบรวมศูนย์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ผู้ใช้งานได้ใช้ โดยที่ระบบสาย ใยแก้วนำแสงแบบรวมศูนย์นี้จะใช้ในการต่อครอสที่ห้องเชื่อมต่อระบบสายสัญญาณสื่อสาร เพื่อเป็นการรองรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกศ์แบบรวมศูนย์
            การเชื่อมต่อระบบสายใยแก้วนำแสงจะเชื่อมต่อจากสถานที่ใช้งานไปยังจุดต่อครอส แบบรวมศูนย์โดยที่ระหว่างการติดตั้งนั้นอนุญาตให้ใช้กับ........การติดตั้งสายตรงหรือการสไปซ์ที่ห้องเชื่อมต่อระบบสายสัญญาณสื่อสารซึ่งระบุในหัวข้อที่ 4 และ 7 ตามมาตรฐานนี้ และ หัวข้อย่อยที่5.4 ตามมาตรฐาน ANSI/TIA/EIA-568-B.3 ซึ่งจะทำให้ระบบสัญญาณสื่อสารนี้มีความยืดหยุ่นง่ายในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงเหมาะสมกับการใช้งานที่มีหลายผู้ใช้งาน อีกทั้งผู้ติดตั้งควรจะปรึกษาผู้ผลิตภัณฑ์และผู้ให้บริการเพื่อให้ใช้ข้อกำหนดนี้ได้อย่างเหมาะสมที่สุด

ก.2       การประยุกต์ใช้งาน
            ในแนวทางนี้ประสงค์ให้ผู้ใช้งานใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบรวมศูนย์มากกว่าแบบกระจายศูนย์ รวมทั้งยังสามารถครอสสายสัญญาณที่ห้องเชื่อมต่อระบบสายสัญญาณสื่อสารอีกด้วย ซึ่งในภาคผนวกนี้ได้ระบุข้อกำหนดของอุปกรณ์การเชื่อมต่อและวิธีการดำเนินการทั่วไป ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นมากและยังสามารถต่อครอสที่ห้องระบบสื่อสารได้ด้วยถ้าต้องการ

ก.3      แนวทางปฏิบัติทั่วไป
            เพื่อให้ระบบสายสัญญาณมีความยืดหยุ่นในการใช้งานและง่ายในการต่อครอสในภาคผนวกนี้จึงระบุวิธีการเชื่อมต่อระบบระหว่างระบบสายสัญญาณหลักและระบบสายสัญญาณแนวราบรวมทั้งวิธีการใช้งานสายสัญญาณที่ติดตั้งโดยการลากผ่านและการติดตั้งสายตรงรวมถึงการสไปซ์ที่ห้องเชื่อมต่อระบบสายสัญญาณสื่อสาร ซึ่งสามารถดูภาพประกอบได้จากรูปที่ ก-1
                                            รูปที่ ก. 1  :  ระบบสายใยแก้วนำแสงแบบรวมศูนย์

            ต้องปฎิบัติตามข้อกำหนด ANSI/TIA/EIA-569-A
            ระยะทางสูงสุดในการติดตั้งระบบสายสัญญาณแนวราบจะระบุไว้ในข้อที่ 4 ระยะทางของสายสัญญาณทั้งหมดซึ่งรวมสายสัญญาณแนวราบม สายสัญญาณหลักและสายต่อเชื่อมจะต้องไม่เกิน 300 เมตร (984 ฟุต)
            การติดตั้งระบบสายสัญญาณแบบรวมศูนย์สายสัญญาณจะต้องอยู่ในอาคารเดียวกับสถานที่ทำงาน ในการย้ายหรือปรับเปลี่ยนระบบจะจัดการที่จุดต่อครอสแบบรวมศูนย์ ส่วนการเพิ่มหรือลดระบบสายสัญญาณแนวราบจะต้องกระทำที่ห้องเชื่อมต่อระบบสายสัญญาณสื่อสาร การติดตั้งสายสัญญาณแบบลากผ่านที่สายสัญญาณสื่อสารไปยังเต้ารับจะต้องมีความยาวไม่เกิน 90 เมตร (295 ฟุต) ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดเดียวกับสายใยแก้วนำแสงแนวราบตามในหัวข้อที่ 4 ของ ANSI/TIA/EIA-568-B.3. ต้องมีการขดสายสัญญาณสำรองที่ห้องเชื่อมต่อระบบสายสัญญาณสื่อสารให้เพียงพอเพื่อให้เคลื่อนย้ายสายไปทำการครอสได้ การขดสายนี้เมื่อสายไใยแก้วนำแสงมีการปลอกเปลือกแล้วจะต้องมีการควบคุมรัศมีความโค้งด้วยและเก็บไว้ที่ตู้ติดผนัง (wall-mount) หรือในชั้นวางอุปกรณ์ ณ  ห้องเชื่อมต่อระบบสายสัญญาณสื่อสาร
            การออกแบบเต้ารับควรจะสำรองให้เพียงพอต่อการใช้งานและจะต้องรองรับอนาคตที่อาจจะมีการใช้งานมากขึ้น การสำรองนี้จะต้องไม่มีการลากสายสัญญาณภายหลังเพิ่มเติม โดยจะยึดเอาสถานที่ทำงานที่มีปริมาณการใช้งานมากที่สุดเป็นเกณฑ์ การใช้งานทั่วไปในสถานที่ทำงานจะต้องการสายใยแก้วนำแสงสองชุด
            ระบบสายสัญญาณแบบรวมศูนย์จะต้องมีการทำเครื่องหมายระบุพอร์ดตามมาตรฐาน ANSI/TIA/EIA-606  การทำเครื่องหมายที่อุปกรณ์เชื่อมต่อหรือจุดสไปซ์จะทำป้ายเครื่องหมายที่ขั้วของปลายสายโดยจะไม่ใช้เป็นรหัสสี ส่วนบริเวณตำแหน่งขั้วต่อหรือเต้ารับที่ห้องเชื่อมต่อระบบสายสัญญาณสื่อสารจะทำเครื่องหมายเป็นพื้นสีน้ำเงิน หรือทุกระบบที่มีการต่อครอสไปที่ห้องเชื่อมต่อระบบสายสัญญาณสื่อสาร
            เพื่อให้ระบบสายใยแก้วนำแสงแบบรวมศูนย์มีความถูกต้องต้องแน่ใจเรื่องการกำหนดขั้วของอุปกรณ์เชื่อมต่อที่ได้กำหนดไว้ในหัวข้อที่ 10.3.2 (การติดตั้งขั้วต่อเป็นแบบ A-B ที่ฝั่งเต้ารับ และติดตั้งแบบ B-A ที่จุดต่อครอสแบบรวมศูนย์)

หมายเหตุ : ข้อกำหนดสำหรับการติดตั้งสายสัญญาณแบบลากผ่านสามารถใช้ได้กับสื่อสุกประเภท การต่อครอสของสื่อประเภทต่างๆ ต้องเป็นไปตามหัวข้อย่อยที่ 5.4 ที่ให้อยู่ในสถานที่เดียวกัน
            
            

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

10. ข้อกำหนดในการติดตั้งระบบสายสัญญาณภายหลังการติดตั้งคือสายสัญญาณ

10.1     ทั่วไป             สำหรับการติดตั้งนอกจากจะต้องดำเนินการตามมารตรฐานนี้แล้วยังต้องติดตั้งตามข้อกำหนดและระเบียบในการติดตั้งที่ถือปฎิบัติในแต่ละท้องที่อีกด้วย 10.1.1  การเดินสายสัญญาณแนวราบและสายสัญญาณหลัก             ควรจะเริ่มประเมินว่าจะติดตั้งสายสัญญาณได้ถูกต้องตามแบบที่ได้กำหนดไว้ และความเค้นในสายควรจะมีน้อยที่สุด (ความเค้นเกิดจากแรงดึงในการดึงและขึงสายสัญญาณ ในการติดดตั้งหรือการรัดสายเนื่องจากการมัดสาย) สายรัดสายสัญญาณที่ใช้รัดรวมสายสัญญาณควรจะรัดให้หลวมพอที่สายสัญญาณจะสามารถเลื่อนไปตามสายได้บ้าง ไม่ควรจะรัดจนสายเสียรูปไป (ต้องศึกษาข้อกำหนดการติดตั้งและกฎระเบียบก่อนการติดตั้ง) 10.2     สายตีเกลียว 100 โอห์ม (สายยูทีพี : สายตีเกลียวไม่มีชิลด์) หรือสายเอสซีทีพี  (สายตีเกลียวหุ้มฟอยล์) 10.2.1  รัศมีความโค้งงอที่ต่ำที่สุด             รัศมีความโค้งงอที่ต่ำที่สุดของสายสัญญาณจะขึ้นอยู่กับสภาพของสายสัญญาณขณะที่ทำการติดตั้งคือมีแรงดึงมากระทำกับสายสัญญ...

4. การติดต้้งระบบสายสัญญาณ

4.1       ทั่วไป             การติดตั้งสายสัญญาณแนวราบเป็นส่วนหนึ่งของการติดตั้งระบบสายสัญญาณที่ใช้ในการสื่่อสารคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม โดยเป็นการติดตั้งสายสัญญาณจากจุดรวมการสื่อสารไปยังเต้ารับ หรือขั้วต่อในพื้นที่ใช้งาน ซึ่งประกอบด้วยสายสัญญาณแนวราบ เต้ารับ การเชื่อมต่อสายเชือมต่อหรือสายต่อในจุดรวมการสื่อสาร และอาจจะถึงกลุ่มเต้ารับ หรือจุดศูนย์รวมเต้ารับก็ได้             (คำว่า "แนวราบ" ใช้กับสายสัญญาณที่เดินตามแนวราบหรือแนวนอนในขั้วหรือใต้ฝ้าของอาคาร)             การออกแบบการติดตั้งสายสัญญาณในแนวราบเทียบกับการใช้งานในระบบต่างๆ ดังนี้             ก) ระบบการสื่อสารทางโทรศัพท์             ข) อุปกรณ์ต่อเชื่อมระบบสลับสาย             ค) ระบบการสื่อสารผ่านคอมพิวเตอร์             ง) ระบบแลน (Local area Network)             จ)...

การคำนวณค่า Loss ของ Fiber Optic

ตัวอย่าง : (คำนวณที่ wavelength 1300 nm ตามมาตรฐาน TIA/EIA-568-B.3   ติดตั้งสาย Multimode 50/125 ohm ยาว 500 เมตร มีจุดต่อแบบ Splice 1 จุด ต่อ และมีจุดต่อแบบ Adapter 2 จุดต่อที่ Patch Panel ให้คำนวณหาค่า Loss                                              Limit                        Q’TY                          Loss Fiber Loss                          1.5 dB/km           ...