ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ภาคผนวก ค. ข้อกำหนดจำเพาะอื่นๆของสายสัญญาณ

ภาคผนวกนี้ใช้เป็นข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานนี้
ค.1       ทั่วไป
            ในภาคผนวกนี้ได้กล่าวถึงสายสัญญาณเพิ่มเติมซึ่งอาจจะได้รับความสนใจ คำอธิบายเป็นแบบย่อและไม่รวมข้อกำหนดทั้งหมดของสายสัญญาณนั้น บางกรณีก็อธิบายถึงเหตุผลที่ไม่รวมสายสัญญาณนั้นในมาตรฐานนี้ด้วย สายสัญญาณเหล่านี้บางกรณีจะสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่าสายสัญญาณที่ยอมรับ หากมีการดำเนินการจัดการอย่างถูกต้อง ดังนั้นจึงเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้งานที่ต้องทำให้แน่ใจว่าสายสัญญาณนั้นมีประสิทธิภาพเพียงพอ

ค.2       ระบบสายสัญญาณแนวราบ
ค.2.1    สายสัญญาณแบบสายคู่ตีเกลียว 100 โอห์มหลายคู่
            สายสัญญาณประเภทนี้ได้มีการใช้มานานแล้วคือใช้เพื่อบริการทางด้านเสียงพูดโดยจะเชื่อมต่อจากห้องเชื่อมต่อระบบสายสัญญาณสื่อสารไปยังเต้ารับ ดังที่แสดงไว้ในรูปที่ ค. 1 สายสัญญาณประเภทนี้อาจจะมีประสิทธิภาพในการติดตั้งแต่เมื่อในอาคารสำนักงานนั้นๆมีผู้ใช้บริการหลายคนทำให้อาจจะเกิดการรบกวนกันระหว่างคู่สายได้ซึ่งการแก้ไขปัญหานั้นยากและใช้เวลามากด้วย การเลือกประเภทของสายสัญญาณหลายคู่ควรให้เหมือนระบบสายสัญญาณหลักตามที่ได้ระบุไว้ใน ANSI/TIA/EIA-568-B.2 ดังนั้นการใช้สายสัญญาณแบบสายคู่ตีเกลียว 100 โอห์มนี้ในการติดตั้งเพื่อกระจายสายแนวราบควรทำเฉพาะในกรณีพิเศษเท่านั้น โดยจะพิจารณาจากแนวทางวิศวกรรมระบบ

                                     รูป ค. 1  :  รูปแบบการติดตั้งสายสัญญาณหลายคู่

ค.2.2   สายโคแอ็กเชียล 75 โอห์ม
            สายสัญญาณประเภทนี้ใช้กับงานพวกวีดีทัศน์หรืองานพวกงานประเภทบรอดแบนด์ที่มีความถี่ตั้งแต่ 5 MHz ถึง 1 GHz มาตรฐานที่อ้างอิงคือ  IEEE802.4 (งานประเภทบรอดแบนด์) และ IEEE802.7,ANSI T1. 404 (DS3) และงานระบบเคเบิลทีวี
ค.2.3   สายโคแอ็กเชียล 50 โอห์ม
            สายสัญญาณประเภทนี้เป็นไปตามข้อกำหนด IEEE802.3 (10BASE2)

ค.3      ระบบสายสัญญาณหลัก
ค.3.1   สายสัญญาณสายเอสซีทีพี (สายตีเกลียวหุ้มฟอยล์) 100 โอห์ม
            ระบบสายสัญญาณหลักโดยทั่วไปจะมีหลายคู่ บางครั้งก็เป็นชิลด์หุ้มตลอดทั้งสายสัญญาณบางครั้งก็มีการหุ้มชิลด์ในแต่ละคู่ของสายสัญญาณหรือ ชิลด์เฉพาะ ที่เรียกว่า "ที" หรือ "ดี" สายยสัญญาณที่หุ้มชิลด์จะต้องต่อชิลด์ลงดินด้วย ซึ่งจะปฎิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตสายสัญญาณนั้น และการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่ออุปกรณ์เชื่อมต่อไม่ควรเชื่อมต่อให้ชิลด์อยู่ภายในโครงสร้างของอุปกรณ์เชื่อมต่อนั้นแต่จะต้องเชื่อมต่อสายสัญญาณให้ชิลด์ต่อเนื่องถึงภายนอกของอุปกรณืเชื่อมต่อ

ค.3.2    สายใยแก้วนำแสงมัลติโหมด
            ตามมาตรฐาน ANSI/TIA/EIA-492-A000  ยอมรับสายใยแก้วนำแสง 4 ประเภทซึ่งไม่มีสายสัญญาณประเภทใดที่สามารถประยุกตืได้ทุกงาน แต่สายใยแก้วนำแสงประเภทเกรดอินแด็กซ์ขนาด 50/125 โอห์ม และ 62.5/125 โอห์ม เป็นสายใยแก้วนำแสงที่เหมาะสมที่สุดในการประยุกต์ในขณะนี้ การใช้สายใยแก้วนำแสงดังกล่าวทำให้สามารถเชื่อมต่อกันได้ทั้งภายในอาคารและระหว่างอาคาร
             ส่วนสายใยแก้วนำแสงขนาด 200/230 โอห์ม ประเภทสเต็ปอินเด็กซ์และประเภทเกรด อินเด็กซ์ และสายใยแก้วนำแสงขนาด 100/140 โอห์ม ประเภทเกรดอินแด็กซ์ ทั้งสองประเภทนี้สามารถส่งต่อกำลังแสงจากแหล่งกำเนิดประเภท LED ได้มากกว่าและการเชื่อมต่อด้วยขั้วต่อหรือการสไปซ์ไม่ต้องใช้ความเที่ยงตรงที่สูงมาก ดังนั้นจากการวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียนี้จะบ่งชี้ได้ว่า 200/230 โอห์ม หรือ 100/140 โอห์ม น่าจะเป้นตัวเลือกที่ดีในงานระบบพิเศษ ซึ่งงานดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตามข้อกำหนดในมาตรฐาน
ค.3.3   สายโคแอ็กเชียล 75 โอห์ม
            สายสัญญาณประเภทนี้ใช้กับงานพวกวีดีทัศน์หรืองานพวกงานประเภทบรอดแบนด์ที่มีความถี่ตั้งแต่ 5 MHz ถึง 1 GHz มาตรฐานที่อ้างอิง IEEE802.4 (งานประเภทบรอดแบนด์) และ  IEEE802.7,ANSI T1.404 (DS3) และ งานระบบเคเบิลทีวี
            งานระบบหลักของเคเบิลทีวีนิยมใช้ สายสัญญาณกึ่งแข็งสายสัญญาณเหล่านี้มีตัวนำสัญญาณภายนอกเป็นอลูมิเนียมทึบมีเส้นผ่านสูงศูนย์กลาง 12.7 มิลลิเมตร (0.500 นิ้ว) ถึง 28.6 มิลิเมตร (1.125 นิ้ว) สามารถเลือกเปลือกพลาสติกที่หุ้มตัวนำสัญญาณได้

ค.3.4   สายโคแอ็กเชียล 50 โอห์ม
            สายสัญญาณประเภทนี้เป็นไปตามข้อกำหนด IEEE802.3 (10BASE5)












ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

10. ข้อกำหนดในการติดตั้งระบบสายสัญญาณภายหลังการติดตั้งคือสายสัญญาณ

10.1     ทั่วไป             สำหรับการติดตั้งนอกจากจะต้องดำเนินการตามมารตรฐานนี้แล้วยังต้องติดตั้งตามข้อกำหนดและระเบียบในการติดตั้งที่ถือปฎิบัติในแต่ละท้องที่อีกด้วย 10.1.1  การเดินสายสัญญาณแนวราบและสายสัญญาณหลัก             ควรจะเริ่มประเมินว่าจะติดตั้งสายสัญญาณได้ถูกต้องตามแบบที่ได้กำหนดไว้ และความเค้นในสายควรจะมีน้อยที่สุด (ความเค้นเกิดจากแรงดึงในการดึงและขึงสายสัญญาณ ในการติดดตั้งหรือการรัดสายเนื่องจากการมัดสาย) สายรัดสายสัญญาณที่ใช้รัดรวมสายสัญญาณควรจะรัดให้หลวมพอที่สายสัญญาณจะสามารถเลื่อนไปตามสายได้บ้าง ไม่ควรจะรัดจนสายเสียรูปไป (ต้องศึกษาข้อกำหนดการติดตั้งและกฎระเบียบก่อนการติดตั้ง) 10.2     สายตีเกลียว 100 โอห์ม (สายยูทีพี : สายตีเกลียวไม่มีชิลด์) หรือสายเอสซีทีพี  (สายตีเกลียวหุ้มฟอยล์) 10.2.1  รัศมีความโค้งงอที่ต่ำที่สุด             รัศมีความโค้งงอที่ต่ำที่สุดของสายสัญญาณจะขึ้นอยู่กับสภาพของสายสัญญาณขณะที่ทำการติดตั้งคือมีแรงดึงมากระทำกับสายสัญญ...

4. การติดต้้งระบบสายสัญญาณ

4.1       ทั่วไป             การติดตั้งสายสัญญาณแนวราบเป็นส่วนหนึ่งของการติดตั้งระบบสายสัญญาณที่ใช้ในการสื่่อสารคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม โดยเป็นการติดตั้งสายสัญญาณจากจุดรวมการสื่อสารไปยังเต้ารับ หรือขั้วต่อในพื้นที่ใช้งาน ซึ่งประกอบด้วยสายสัญญาณแนวราบ เต้ารับ การเชื่อมต่อสายเชือมต่อหรือสายต่อในจุดรวมการสื่อสาร และอาจจะถึงกลุ่มเต้ารับ หรือจุดศูนย์รวมเต้ารับก็ได้             (คำว่า "แนวราบ" ใช้กับสายสัญญาณที่เดินตามแนวราบหรือแนวนอนในขั้วหรือใต้ฝ้าของอาคาร)             การออกแบบการติดตั้งสายสัญญาณในแนวราบเทียบกับการใช้งานในระบบต่างๆ ดังนี้             ก) ระบบการสื่อสารทางโทรศัพท์             ข) อุปกรณ์ต่อเชื่อมระบบสลับสาย             ค) ระบบการสื่อสารผ่านคอมพิวเตอร์             ง) ระบบแลน (Local area Network)             จ)...

การคำนวณค่า Loss ของ Fiber Optic

ตัวอย่าง : (คำนวณที่ wavelength 1300 nm ตามมาตรฐาน TIA/EIA-568-B.3   ติดตั้งสาย Multimode 50/125 ohm ยาว 500 เมตร มีจุดต่อแบบ Splice 1 จุด ต่อ และมีจุดต่อแบบ Adapter 2 จุดต่อที่ Patch Panel ให้คำนวณหาค่า Loss                                              Limit                        Q’TY                          Loss Fiber Loss                          1.5 dB/km           ...