ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

6. พื้นที่ทำงานของการสื่อสาร

6.1       ทั่วไป
            พื้นที่ทำงาน คือ พื้นที่ต่อขยายจากส่วนเต้ารับของสายสัญญาณในแนวราบ ไปยังบริเวณที่ทำงานซึ่งสามารถเป็นอุปกรณ์ใดๆ ก็ได้จำนวนหนึ่ง ไม่จำกัดแต่เพียงเครื่องโทรศัพท์ และคอมพิวเตอร์ในส่วนระบบสายสัญญาณของพื้นที่ทำงานนั้น จะต้องมีการจัดการการกระจายของสายสัญญาณที่ดีการกระจายสายสัญญาณโดยทั่วไปมักจะเป็นการติดตั้งอย่างไม่ถาวรและง่าายต่อการเปลี่ยนแปลง

6.2       เต้ารับของสายสัญญาณ
6.2.1    เต้ารับของสายสัญญาณแบบสายคู่ตีเกลี่ยว ความต้านทาน  100  โอห์ม
            การติดตั้งสายยูทีพี (สายตีเกลียวไม่มีชิลด์) บริวณสถานที่ทำงานต้องเชื่อมต่อปลายสายกับเต้ารับตัวเมียคอมพิวเตอร์ ซึ่งสายยูทีพี (สายตีเกลียวไม่มีชิลด์)  และสายเอสซีทีพี (สายตีเกลียวหุ้มฟอยล์) 100  โอห์ม จะเป็นไปตามข้อกำหนด ซี่งระบไว้ใน IEC60603-7 และข้อกำหนด ANSI/TIA/EIA-568-B.2 ส่วนเรื่องการทำเครื่องหมายที่ขั้งต่อของสายสัญญาณ และการติดตั้งจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของ  ANSI/TIA/EIA-570-A
            การเชื่อมต่อสายสัญญาณกับเต้ารับตัวเมียคอมพิวเตอร์ 8 ขา สามารถเลือกได้สองวิธี ดังรูป ที่ 5 และ รูปที่ 6 ซึ่งจากรูปจะแสดงภาพด้านหน้าของเต้ารับตัวเมียคอมพิวเตอร์


 รูปที่ 5 การกำหนด ขา / คู่  ของเต้ารับตัวเมีย 8 ตำแหน่ง (T568A)


                           รูปที่ 6 ทางเลือกในการกำหนด ขา / คู่ ของเต้ารับตัวเมีย 8 ตำแหน่ง (T568B)

6.2.2    เต้ารับสายสัญญาณสำหรับสายใยนำแสง
            การติดตั้งสายใยแก้วนำแสงในแนวราบไปยังสถานที่ทำงานจะต้องเชื่อมต่อปลายสาย เข้ากับเต้ารับและควรจะเป็นเต้ารับหรือขั้วต่อแบบสองทาง (เป็นไปตามข้อกำหนด ANSI/TIA/EIA-568-B.3) เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายทำงาน ขั้วต่อ  568SC  จะอยู่ในข้อกำหนด  ANSI/TIA/EIA-568-A และยังควรนำมาพิจารณาใช้สำหรับเต้ารับของสถานที่ทำงาน และขั้วต่อแบบอื่นๆ รวมทั้งอาจนำมาพิจารณาใช้กับชุดขั้วต่อขนาดเล็ก

6.3       สายเชื่อมต่อเต้ารับ ณ พื้นที่ทำงาน
            สายเชื่อมต่อกับเต้ารับ ณ พื้นที่ทำงานจะมีความยาวไม่เกิน 5 เมตร ( 16 ฟุต) ซึ่งเป็นความยาวที่อยู่ในความยาวสูงสุดของการติดตั้งสายสัญญาณในแนวราบ โดยความยาวสูงสุดของการติดตั้งสายสัญญาณในแนวราบ ได้ระบุในข้อที่ 4.3 ซึ่งสายเชื่อมต่อเต้ารับ ณ พื้นที่ทำงานจะต้องเป็นไปตามข้อหนดของ ANSI/TIA/EIA-568-B.2 และ  ANSI/TIA/EIA-568-B.3 หรือดีกว่าระบบสายสัญญาณบริเวณสถานที่ทำงานอาจมีการเปลี่ยนยแปลงได้ขึ้นอยู่กับการใช้งาน โดยทั่วไปแล้วจะใช้สายเชื่อมต่อซึ่งมีขั้วต่อที่ปลายของสายเหมือนกันทั้งสองด้าน ถ้ามีการดัดแปลงการใช้งานเฉพาะอย่างในสถานที่ทำงาน ต้องทำที่ภายนอกเต้ารับหรือขั้วต่อของสายสัญญาณ (ดูข้อที่ 4.2 )

การดัดแปลงที่พบได้บ่อยในพื้นที่ทำงาน ได้แก่
            ก) เมื่อขั้วต่อของตัวอุปกรณ์มีความแตกต่างจากเต้ารับหรือขั้วต่อของสายสัญญาณจะต้องใช้สายสัญญาณหรือตัวแปลงแบบพิเศษ
            ข) เมื่อมีการใช้บริการแบบสองประเภทอยู่ในสายสัญญาณเส้นเดียวกัน ให้ใช้ตัวแปลงแบบ "วาย "
            ค) เมื่อชนิดของสายสัญญาณในแนวราบมีความแตกต่างกับชนิดสายสัญญาณของตัวอุปกรณ์ให้ใช้ตัวแปลงแบบแพสซีฟ (Passive) 
            ง) เมื่ออุปกรณ์ที่ต่อมีรูปแบบการส่งสัญญาณ์ที่แตกต่าง ให้ใช้ตัวแปลงแบบแอ็คทีฟ (Active)
            จ) เมื่อมีความจำเป็นสำหรับการเข้าคู่สายร่วมกันให้ใช้ตัวแปลงสลับคู่สาย
            ฉ) ไอเอสดดีเอ็น เมื่อต้องการจัดการเรื่องความต้านทานที่ขั้วต่อสาย

หมายเหตุ  :  เมื่อมีการใช้งานตัวแปลงของระบบสายสัญญาณในพื้นที่ทำงายอาจทำให้มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประสิทธิภาพของการสื่อสารจึงมีความจำเป็นต้องพิจารณาในเรื่องความเข้ากันได้ระบบสายสัญญาณ ในส่วนของสถานที่ อุปกรณ์ และการใช้งานต่างๆ ก่อน จะมีการต่อเข้ากับระบบเครือข่ายโทรคมนาคม

6.4       ระบบสายสัญญาณในสำนักงานแบบเปิด
            การออกแบบสำนักงานในปัจจุบันได้มีการออกแบบแผนผังให้ง่ายต่อการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับงานในรูปแบบต่างๆ โดยแบ่งออกเป็นส่วนย่อยๆ และในสถานที่ทำงานก็จะมีการจัดรูปแบบต่างๆ ให้เหมาะสมกับงานในสถานที่นั้นๆ ซึ่งการติดตั้งระบบสัญญาณในสำนักงานแบบเปิดจะสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เหมาะกับการใช้งานได้บ่อยโดยที่ไม่รบกวนกับระบบสัญญาณแนวราบที่วางไว้
6.4.1    กลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกัน
            กลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกันเหมาะสำหรับงานที่มีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง
            และ ยังง่ายในการเชื่อมต่อปลายสายสัญญาณทั้งเส้นเดียวและหลายเส้นโดยการรวมกลุ่ม
            อุปกรณ์ที่มีหน้าที่คล้ายกันเข้าไว้ด้วยกัน การใช้กลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกันจะทำให้
            สามารถเปลี่ยนแปลงแบบแปลนการใช้งานได้โดยไม่กระทบกับสายสัญญาณแนวราบ สายเชื่อม
            ต่อกับเต้ารับ ณ สถานที่ทำงานจะเชื่อมต่อสถานที่ทำงานโดยตรงเลยโดยไม่ต้องผ่านการต่อค
            รอสระหว่างกลาง (ดูรูปที่ 7)


รูปที่ 7 :  การใช้งานกลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกัน

6.4.1.1    การวางแผนการใช้งาน
            กลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกันควรจะติดตั้งในสำนักงานแบบเปิดเพื่อให้กลุ่มอุปกรณ์ที่
            ทำงานคล้ายกันมีกลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกันและควรจะจำกัดพื้นทีทำงานที่เชื่อมต่อ
            ไม่เกิน 12 จุด ในการติดตั้งกลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกันจะต้องพิจารณาความยาวสาย
            ต่อกับเต้ารับ ณ พื้นที่ทำงาน (ดูข้อ 6.4.1.4) ส่วนเรื่องปริมาณเต้ารับสำรองของกลุ่มเต้ารับที่มี
            หลายเต้ารับอยู่ด้วยกันต้องพิจารณาจากกลุ่มผู้ใช้

6.4.1.2    วิธีการติดตั้ง
            กลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกันควรติดตั้งในบริเวณที่สะดวกในการเข้าไปใช้งานได้ตลอด
            เวลาและอยู่ในสถานที่ที่มั่นคง เช่น เสาอาคาร หรือฝาผนังที่มั่นคง กลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่
            ด้วยกันจะต้องไม่ติดตั้งในช่องเพดาน ไม่ติดตั้งบริเวณที่มีสิ่งกีดขวางหรือไม่ติดตั้งอยู่ใน
            เฟอร์นิเจอร์ แต่ถ้าเฟอร์นิเจอร์นั้นติดตั้งเป็นส่วนหนึ่งของอาคารก็สามารถทำได้

6.4.1.3   การจัดการสายสัญญาณ
            กลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกันจะมีการจัดการเช่นเดียวกับเต้ารับซึ่งได้อธิบายไว้ใน
            ANSI/TIA/EIA-606 สำหรับสถานที่ทำงานการเชื่อมต่อสายเชื่อมต่อกับกลุ่มเต้ารับที่มีหลาย
            เต้ารับอยู่ด้วยกันจะต้องมีการทำเครื่องหมายระบุที่ปลายทั้งสองด้านของการเชื่อมต่อโดยที่ด้าน
            กลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกันจะต้องระบุถึงสถานที่ทำงานที่นำไปใช้ ส่วนบริเวณสถานที่
            ทำงานต้องระบุกลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกันและระบุพอร์ตด้วย

6.4.1.4   ความยาวสูงสุดสำหรับสายสัญญาณทองแดง
            สายเชื่อมต่อ ณ พื้นที่ทำงานที่มีตัวนำสัญญาณเป็นทองแดงที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับกลุ่มเต้ารับที่
            มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกันและอุปกรณ์ในสถานที่ทำงานแบบเปิด จะต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
            ANSI/TIA/EIA-568-B.2 ความสูงสุดของสายสัญญาณที่พิจารณาอยู่บนพื้นฐานของค่าความสูญ
            เสียสอดแทรกจะเป็นไปตามสมการนี้

            C = (102 - H) / (1 + D)
            W = C - T น้อยกว่าเท่ากับ 22 m. (72 ft) สำหรับ 24 AWG UTP/ScTP
            หรือ W น้อยกว่าเท่ากับ 17 m.  (56 ft) สำหรับ  26 AWG UTP/ScTP

            โดยที่
            C  คือ  ความยาวสูงสุดสำหรับสายสัญญาณทองแดงที่่รวมความยาวของสายเชื่อมต่อเต้ารับ ณ
                       จุดใช้งาน, สายเชื่อมอุปกรณ์และห้องอุปกรณ์สื่อสาร
            H  คือ  ความยาวของสายสัญญาณแนวราบ (H + C      100  เมตร)
            D  คือ  ตัวประกอบการลดพิกัดสำหรับสายต่อเชื่อม
                        (0.2 สำหรับ  24 AWG UTP/ScTP และ 0.5 สำหรับ 26 AWG UTP/ScTP
            T  คือ  ความยาวของสายต่อเชื่อมและสายเชื่อมอุปกรณ์ที่จุดเชื่อมต่อสายสัญญาณสื่อสาร

ตารางที่ 1 : เป็นการประยุกต์ใช้สมการดังกล่าว โดยสมมุติ ความยาวรวมของสายต่อเชื่อม และ สายเชื่อมอุปกรณ์ที่จุดเชื่อมต่อสายสัญญาณสื่อสารแบบ 24 AWG UTP/ScTP  ยาว 5 เมตร หรือ 16 ฟุต แบบ 26 AWG UTP/ScTP  ยาว   เมตร หรือ 13 ฟุต กลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกันจะต้องมีการทำเครื่องหมายเพื่อระบุความยาวสูงสุดของสายเชื่อมต่อ ณ พื้นที่ทำงาน วิธีหนึ่งที่แนะนำคือ ประเมินค่าจากสัญลักษณ์ที่ระบุที่สายสัญญาณ

ตารางที่ 1 ความยาวสูงสุดของสายสัญญาณแนวราบและสายเชื่อมต่อเต้ารับ ณ พื้นที่ทำงาน

           ชุดต่อสายแบบ 24 AWG UTP/24 AWG
              ชุดต่อสายแบบ 26 AWG ScTP

                                  
                        ScTP



ความยาว
ความยาวสูงสุด
ความยาวรวมสูงสุด
ความยาวสูงสุด
ความยาวรวมสูงสุด
ของ
ของสายเชื่อมต่อ
ของสายเชื่อมต่อ
ของสายเชื่อมต่อ
ของสายเชื่อมต่อ
สายสัญญาณ
เต้ารับ ณ พื้นที่
เต้ารับ ณ พื้นที่
เต้ารับ ณ พื้นที่
เต้ารับ ณ พื้นที่
แนวราบ
ทำงาน
ทำงานชุดสายต่อ
ทำงาน
ทำงานชุดสายต่อ


และสายเชื่อม

และสายเชื่อม
H

อุปกรณ์

อุปกรณ์
เมตร (ฟุต)
W

W


เมตร (ฟุต)
C
เมตร (ฟุต)
C


เมตร (ฟุต)

เมตร (ฟุต)
90(295)
5(16)
10(33)
4(13)
8(26)
85(279)
9(30)
14(46)
7(23)
11(35)
80(262)
13(44)
15(59)
11(35)
15(49)
75(246)
17(57)
22(72)
14(46)
18(59)
70(230)
22(72)
27(89)
17(56)
21(70)


6.4.1.5  ระยะความยาวของสายใใยแก้วนำแสงแนวราบ
           สำหรับสายใยแก้วนำแสงเมื่อเชื่อมต่อที่สถานที่ทำงานไปยังกลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกันไม่จำเป็นต้องลดระยะของสายสัญญาณให้เหลือ 100  เมตร (328 ฟุต) ให้ปฎิบัติตามภาคผนวก ก.

6.4.2     จุดต่อสาย
            จุดต่อสายคือจุดที่เอาไว้เชื่อมต่อภายในระบบสายสัญญาณแนวราบโดยใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อตามข้อกำหนด ANSI/TIA/EIA-568-B.2 และ ANSI/TIA/EIA-568-B.3 และข้อกำหนดในการติดตั้งตามข้อ 10 (ดูรูปที่ 8) สามารถทำการเชื่อมต่อสายสัญญาณใหม่ได้อย่างน้อย 200 ครั้ง จุดต่อสายนี้มีความแตกต่างกับกลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกันตรงที่ จุดสายจะใช้ในการต่อระบบสายสัญญาณแนวราบสามารถต่อไไปเพียงหนึ่งจุดและต้องไม่ต่อแบบครอส จุดเปลี่ยนและจุดต่อสายจะต้องไม่อยู่ในสายสัญญาณแนวราบเดียวกัน การต่อสายสัญญาณแนวราบด้วยจุดต่อสายจะต้องเชื่อมต่อปลายสายบริเวณที่ทำงานเต้ารับกรือกลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกัน ซึ่งมีประสิทธิภาพของการสื่อสารไปตามข้อ 11
            ในระบบของสายสัญญาณที่มีตัวนำเป็นทองแดงจุดต่อสายจะต้องอยู่ห่างจากจุดเชื่อมต่อระบบสายสัญญาณสื่อสารไม่น้อยกว่า 15 เมตร  เพื่อลดผลกระทบการเกิดการสูญเสียการรบกวนข้ามคู้และการสูญเสียย้อนกลับ
            การใช้จุดต่อสายจะสามารถใช้เพื่อเป็นการจัดรูปแบบใหม่หรือปรับปรุงระบบได้ แต่จะไม่สามารถให้ความยืดหยุ่นในการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงได้เท่ากับกลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกัน

                                      รูปที่ 8  :  การใช้งานจุดต่อสาย

6.4.2.1  การวางแผนการใช้งาน
            จุดรวมสายควรจะติดตั้งในสำนักงานแบบเปิดเพื่อให้กลุ่มอุปกรณ์ที่ทำงานคล้ายกันมีกลุ่มเต้ารับที่มีหลายเต้ารับอยู่ด้วยกันและควรจะจำกัดพื้นที่ทำงานที่เชื่อมต่อไม่เกิน 12 จุด ส่วนเรื่องปริมาณเต้ารับสำรองของจุดรวมสายต้องพืจารณาจากกลุ่มผู้ใช้งาน

6.4.2.2  วิธีการติดตั้ง
            จุดรวมสายควรติดตั้งในบริเวณที่สะดวกในการเข้าไปใช้งานได้ตลอดเวลาและอยู่ในสถานที่ที่มั่นคงเช่น เสาของอาคาร หรือฝาผนังที่มั่นคง จุดรวมสายจะต้องไม่ติดตั้งในช่องเพดาน ไม่ติดตั้งบริเวณที่มีสิ่งกีดขวาง หรือไม่ติดตั้งอยู่ในเฟอร์นิเจอร์ แต่ถ้าเฟอร์นิเจอร์นั้นติดตั้งเป็นส่วนหนึ่งของอาคารก็สามารถทำได้ และต้องไม่ใช้จุดรวมสายสำหรับการต่อตรงไปยังอุปกรณ์ประเภทแอ็คทีฟ (Active)

6.4.2.3   การจัดการสายสัญญาณ
            จุดรวมสายจะต้องมีการจัดการสายสัญญาณในลักษณะเดียวกับอุปกรณ์เชื่อมต่อซึ่งได้มีการอธิบายไว้ใน  ANSI/TIA/EIA-606 ถ้ามีการเคลื่อนย้าย เพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลงการให้บริการที่ไม่เกี่ยวข้องกับระบบสายสัญญาณในสำนักงานแบบเปิดให้ดำเนินการจัดการที่จุดต่อครอสสายสัญญาณในแนวราบที่จุดเชื่อมต่อระบบสายสัญญาณสื่อสาร

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

10. ข้อกำหนดในการติดตั้งระบบสายสัญญาณภายหลังการติดตั้งคือสายสัญญาณ

10.1     ทั่วไป             สำหรับการติดตั้งนอกจากจะต้องดำเนินการตามมารตรฐานนี้แล้วยังต้องติดตั้งตามข้อกำหนดและระเบียบในการติดตั้งที่ถือปฎิบัติในแต่ละท้องที่อีกด้วย 10.1.1  การเดินสายสัญญาณแนวราบและสายสัญญาณหลัก             ควรจะเริ่มประเมินว่าจะติดตั้งสายสัญญาณได้ถูกต้องตามแบบที่ได้กำหนดไว้ และความเค้นในสายควรจะมีน้อยที่สุด (ความเค้นเกิดจากแรงดึงในการดึงและขึงสายสัญญาณ ในการติดดตั้งหรือการรัดสายเนื่องจากการมัดสาย) สายรัดสายสัญญาณที่ใช้รัดรวมสายสัญญาณควรจะรัดให้หลวมพอที่สายสัญญาณจะสามารถเลื่อนไปตามสายได้บ้าง ไม่ควรจะรัดจนสายเสียรูปไป (ต้องศึกษาข้อกำหนดการติดตั้งและกฎระเบียบก่อนการติดตั้ง) 10.2     สายตีเกลียว 100 โอห์ม (สายยูทีพี : สายตีเกลียวไม่มีชิลด์) หรือสายเอสซีทีพี  (สายตีเกลียวหุ้มฟอยล์) 10.2.1  รัศมีความโค้งงอที่ต่ำที่สุด             รัศมีความโค้งงอที่ต่ำที่สุดของสายสัญญาณจะขึ้นอยู่กับสภาพของสายสัญญาณขณะที่ทำการติดตั้งคือมีแรงดึงมากระทำกับสายสัญญ...

4. การติดต้้งระบบสายสัญญาณ

4.1       ทั่วไป             การติดตั้งสายสัญญาณแนวราบเป็นส่วนหนึ่งของการติดตั้งระบบสายสัญญาณที่ใช้ในการสื่่อสารคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม โดยเป็นการติดตั้งสายสัญญาณจากจุดรวมการสื่อสารไปยังเต้ารับ หรือขั้วต่อในพื้นที่ใช้งาน ซึ่งประกอบด้วยสายสัญญาณแนวราบ เต้ารับ การเชื่อมต่อสายเชือมต่อหรือสายต่อในจุดรวมการสื่อสาร และอาจจะถึงกลุ่มเต้ารับ หรือจุดศูนย์รวมเต้ารับก็ได้             (คำว่า "แนวราบ" ใช้กับสายสัญญาณที่เดินตามแนวราบหรือแนวนอนในขั้วหรือใต้ฝ้าของอาคาร)             การออกแบบการติดตั้งสายสัญญาณในแนวราบเทียบกับการใช้งานในระบบต่างๆ ดังนี้             ก) ระบบการสื่อสารทางโทรศัพท์             ข) อุปกรณ์ต่อเชื่อมระบบสลับสาย             ค) ระบบการสื่อสารผ่านคอมพิวเตอร์             ง) ระบบแลน (Local area Network)             จ)...

การคำนวณค่า Loss ของ Fiber Optic

ตัวอย่าง : (คำนวณที่ wavelength 1300 nm ตามมาตรฐาน TIA/EIA-568-B.3   ติดตั้งสาย Multimode 50/125 ohm ยาว 500 เมตร มีจุดต่อแบบ Splice 1 จุด ต่อ และมีจุดต่อแบบ Adapter 2 จุดต่อที่ Patch Panel ให้คำนวณหาค่า Loss                                              Limit                        Q’TY                          Loss Fiber Loss                          1.5 dB/km           ...