ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

11. ประสิทธิภาพขอสายสัญญาณและข้อกำหนดในการทดสอบ

11.1     ทั่วไป
            ประสิทธิภาพของสายสัญญาณจะขึ้นอยู่กับส่วนประกอบหลายๆส่วนดังนี้ คุณลักษณะของสายสัญญาณ,อุปกรณ์เชื่อมต่อ, สายต่อเชื่อม และสายต่อครอส, จำนวนจุดต่อสายสัญญาณและการคำนึงการติดตั้งและการดูแลรักษา ในหัวข้อนี้จะกล่าวถึงการทดสอบประสิทธิภาพของสายสัญญาณหลักการติดตั้งโดยจะลงรายละเอียดไปที่ช่องสัญญาณและในข้อกำหนดในการทดสอบสายสัญญาณ และยังรวมไปถึงข้อกำหนดของเครื่องที่ใช้ทดสอบ วิธีการทดสอบและการแปลความจากผลการทดสอบ เพื่อให้ผู้ใช้งานเมื่อสามารถแก้ไขเมื่อเกิดปัญหาได้อย่างถูกต้อง

11.2     ประสิทธิภาพของสายยูทีพี (สายตีเกลียวไม่มีชิลด์) 100 โอห์ม และข้อกำหนดสำหรับการทดสอบภาคสนาม

11.2.1  วัตถุประสงค์และขอบเขต
            ในหัวข้อย่อยนี้จะแสดงประสิทธิภาพของสายสัญญาณประเภทสายตีเกลียวคู่ 100 โอห์ม ทั้งสองประเภทและอุปกรณ์เชื่อมต่อที่ได้ทำการรติดตั้งแล้วโดยใช้เครื่องมือทดสอบภาคสนามในการทดสอบ และมีการระบุคุณลักษณะของสัญญาณไฟฟ้าของเครื่องมือทดสอบ วิธีการทดสอบ และคุณลักษณะขั้นต่ำสุดของสายคู่เกลียว 100 โอห์ม เครื่องทดสอบนี้จะเป็นการปล่อยความถี่แบบกวาดและเพิ่มความถี่เป็นขั้นๆ จนถึง 100 MHz ส่วนวิธีอื่นๆที่สามารถแสดงได้ว่ามีประสิทธิภาพเท่าเทียมกันเช่น การวัดด้วยโดเมนความถี่หรือโดเมนทางเวลาก็สามารถยอมรับได้

หมายเหตุ  :  ประสิทธิภาพและคำแนะนำในการทดสอบของระบบสายสัญญาณ CAT 5  จะสามารถดูได้ในภาคผนวก ง. (เดิมจะอยู่ใน TIA /EIA/ TSB67)

            การทดสอบสายสัญญาณและการแปลความจากผลการทดสอบอันจะนำไปสู่เกณฑ์การพิจารณาให้ผ่านหรือไม่ผ่านจะมีผลเพื่อเป็นการตรวจสอบสายสัญญาณหลังจากติดตั้งแล้วเท่านั้นไม่สามารถนำมาแทนที่ข้อกำหนดในมาตรฐาน

11.2.2  ความสามารถในการใช้งาน
            ในหัวข้อย่อยนี้จะระบุความสามารถและประสิทธิภาพของสายสัญญาณแบบสายตีเกลียวคู่ 100 โอห์ม ทั้งประเภทสายยูทีพี (สายตีเกลียวไม่มีชิลด์) และสายเอสซีทีพี (สายตีเกลียวหุ้มฟรอยส์) ที่ประกอบไปด้วยสัญญาณและอุปกรณ์เชื่อมต่อ และในหัวข้อนี้จะกล่าวถึงสายสัญญาณแบบสายคู่เกลียว 100 โอห์มเท่านั้น จะไม่รองรับสายสัญญาณที่มีค่าอิมพีแดนซ์อื่น

11.2.3  รูปแบบการทดสอบ
            ในหัวข้อย่อยนี้จะกล่าวถึงเครื่องมือทดสอบรวมถึงขั้นตอนในการทดสอบสายสัญญาณสายคู่เกลียว 100 โอห์ม ในการทดสอบจำเป็นใช้ค่าที่จำกัดตามที่ระบุใน หัวข้อ 11.2.4 การทดสอบนี้เป็นสิ่งที่ผู้ออกแบบระบบและผู้ใช้งานจะต้องสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของช่องสัญญาณทั้งหมดได้โดยที่ช่องสัญญาณนี้รวมไปถึงระบบสายสัญญาณแนวราบไม่เกิน 90 (295 ฟุต) สายเชื่อมต่ออุปกรณ์ ณ จุดใช้งาน เต้ารับหรือขั้วต่อสำหรับระบบสื่อสาร, จุดรวมสายหรือจุดเปลี่ยน และจุดเชื่อมต่อสองจุด ที่ห้องเชื่อมต่อระบบสัญญาณสื่อสาร การต่อจากปลายสัญญาณไปยังอุปกรณ์หรือเมื่อระบบสายสัญญาณแนวราบมีการต่อครอสกับระบบสายสัญญาณหลักจะไม่ถือว่าอยู่ในขอบเขตของช่องสัญญาณ ความยาวรวมของสายเชื่อมอุปกรณ์, สายเชื่อมต่อหรือสายย้ำ, และสายเชื่อมต่อ ณ จุดใช้งานจะต้องมีความยาวรวมไม่เกิน 10 เมตร (33 ฟุต) รูปแบบของช่องสื่อแสดงในรูปที่ 13
                  รูปที่ 13  :  แสดงรูปแบบการทดสอบสายสัญญาณแบบการทดสอบช่องสื่อ

            รูปแบบการทดสอบช่องสัญญาณที่ติดตั้งถาวรจะแสดงในรูปที่ 14 ช่องสัญญาณที่ติดตั้งถาวรนั้นประกอบไปด้วยระบบสายสัญญาณแนวราบที่มีความยาวไม่เกิน 90 เมตร (295 ฟุต) และการเชื่อมต่อที่ปลายสายสัญญาณแต่ละด้าน อาจจะมีการรวมถึงจุดเชื่อมต่อสายและจุดเปลี่ยนด้วยแต่จะไม่รวมถึงสายและจุดเชื่อมต่อในส่วนของเครื่องมือ
                     รูปที่ 14  :   แสดงรูปแบบการทดสอบสายสัญญาณแบบการทดสอบการติดตั้งถาวร
                     หมายเหตุ  :  ถ้ามีการเชื่อมต่อแบบครอสควรจะมีการทดสอบช่องสัญญาณด้วย

11.2.4  พารามิเตอร์ที่ใช้ในการทดสอบ
11.1.4.1 ทั่วไป

            พารามิเตอร์หลักการทดสอบคือ
            ก) แผนผังการเดินสายสัญญาณ
            ข) ความยาว
            ค) ค่าการสูญเสียจากการสอดแทรก
            ง) ค่าการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดต้องสาย
            จ) ค่าผลรวมของการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดต้นสาย
            ฉ) ค่าการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดปลายสาย
            ช) ค่าผลรวมของการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดปลายสาย
            ซ) การสูญเสียการย้อนกลับ
            ฌ) เวลาที่สัญญาณใช้เดินทางจากปลายสายด้านหนึ่งไปอีกด้าน
            ญ) ค่าการหน่วง

หมายเหตุ  :  พารามิเตอร์อื่นๆ เช่น ความสมดุลแนวยาว (longitudi balance ) และอิมพีแดนซ์ตามแนวยาว (longitudial impedance) ซึ่งมีความจำเป็นต่อการประยุกต์โครงข่ายเฉพาพะอย่างพารามิเตอร์เหล่านี้จะยังอยู่ในระหว่างการศึกษาค่าการสูญเสียจากการสอดแทรก, ค่าการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดต้นสาย, ค่าการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดปลายสาย และการสูญเสียย้อนกลับ ได้มาด้วยการ วัดช่องสัญญาณด้วยการปล่อยความถี่แบบกวาดและเพิ่มความถี่เป็นขั้นๆ หรือวิธีที่เทียบเท่า

11.2.4.2 แผนผังการเดินสาย
            การทดสอบเรื่องแผนผังการเดินสายมีจุดประสงค์เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของการเชื่อมต่อปลายสายสัญญญาณแต่ละด้านแบบขาต่อ และยังสามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดของการเชื่อมต่อสายนำสัญญาณทั้งแปดเส้นที่อยู่ภายในสายคู่ตีเกลียว ในแผนผังการเกิดสายสัญญาณจะระบุรายละเอียดดังนี้
            ก) ความต่อเนื่องของสายสัญญาณ
            ข) การลัดวงจรของสายนำสัญญาณ
            ค) การสลับเส้นภายในคู่ของสายนำสัญญาณ
            ง) การแยกคู่สาย
            จ) คู่สายนำสัญญาณสลับตำแหน่งกัน
            ฉ) การเดินสายที่ผิดอื่นๆ

            การเชื่อมต่อกับเต้ารับที่ถูกต้องจะระบุไว้ในมาตรฐาน ANSI/TIA/EIA-568-B.2 (รูปที่ 15)


         
            การสลับเส้นภายในคู่ของสายนำสัญญาณจะเกิดขึ้นเมื่อสายนำสัญญาณคู่ใดคู่หนึ่งมีการสลับตำแหน่งกับอีกเส้น หรือจะเรียกว่า การสลับทิป/ริง
            คู่สายนำสัญญาณสลับตำแหน่งกันจะเกิดขึ้นเมื่อสายนำสัญญาณสองเส้นของสายนำสัญญาณทั้งสองคู่ที่มีการเชื่อมต่อปลายสายนำสัญญาณที่ผิดปกติที่อีกด้านหนึ่ง บางครั้งอาจจะเรียกว่า ครอสแพร์
            การแยกคู่สายเกิดขึ้นเมื่อสายสัญญาณที่ควรจะเชื่อมต่อเข้าคู่กันแยกออกจากกันแล้วยังส่งผลความต่อเนื่องระหว่างขาต่อขา สามารถดููรูปข้อผิดพลาดทั้งสามข้อได้ในรูปที่ 16
                                                      รูปที่  16 :  การจับคู่สายที่ผิด

11.2.4.3 ความยาว
11.2.4.3.1 ความยาวทางกายภาพและความยาวทางไฟฟ้า
            ความยาวทางกายภาพ คือ ความยาวทั้งหมดของสายสัญญาณที่วัดตั้งแต่ปลายสายสัญญาณด้านหนึ่งจนถึงปลายอีกด้าน โดยจะสามารถวัดความยาวด้วยการใช้อุปกรณ์การวัดหรือดูจากเครื่องหมายที่ระบุไว้ที่ตัวสาย ส่วนความยาวตามไฟฟ้าจะเป็นการประมาณความยาวของสายสัญญาณโดยการใช้ค่าเวลาที่สัญญาณใช้เดินทางจากปลายด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งของสายสััญญาณโดยจะขึ้นอยู่กับโครงสร้างและวัสดุที่ใช้ทำสายสัญญาณด้วย (ANSI/TIA/EIA-568-B.2) ซึ่งในการหาความยาวจะยึดสายสัญญาณที่มีค่าการหน่วงสั้นที่สุดมาคิดและบวกกับค่าความคลาดเคลื่อนของการแพ้สัญญาณอีก 10 % เพื่อนำมาตัดสินว่าผ่านหรือไม่ตามข้อกำหนดเรื่องความยาวของสายสัญญาณดังรูปที่ 13 และ 14

11.2.4.3.2 ข้อกำหนดความยาว
            ความยาวทางกายภาพสำหรับการเชื่อมต่อถาวร (การทดสอบแบบเพอร์มะเนินท) ต้องเป็น 90 เมตร (295 ฟุต) ไม่รวมสายต่อเครื่องทดสอบ ความยาวทางกายภาพสูงสุดสำหรับช่องสัญญาณ การทดสอบแบบแชแนลเป็น 100 เมตร (328 ฟุต) รวมสายต่อและสายเชื่อมอุปกรณ์
11.2.4.4 ค่าสูญเสียจากการสอดแทรก
            ค่าสูญเสียจากการสอดแทรกจะวัดที่การเชื่อมต่อถาวรหรือจากช่องสัญญาณ สำหรับในกรณีที่เลวร้ายที่สุดค่าสูญเสียจากการสอดแทรกจะต้องมีค่ามากที่สุดไม่เกินที่กำหนดไว้
            ค่าสูญเสียจากการสอดแทรกสำหรับการเชื่อมต่อถาวรจะหาได้จากผลรวมของ
                    ก) ค่าสูญเสียจากการสอดแทรกของขั้วต่่อ 4 จุด
                    ข) ค่าสูญเสียจากการสอดแทรกสำหรับสายต่อ สายเชื่อมอุปกรณ์และสายเชื่อมต่อในพื้นที่ทำงานขนาด 24 AWG ยูทีพี/24 AWG เอสซีทีพี ยาว 10 เมตร (33 ฟุต) หรือ ขนาด 26 AWG เอสซีทีพียาว 8 เมตร (26 ฟุต) ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส
                    ค) ความสูญเสียจากการสอดแทรกของสายสัญญาณ 90 ( 295 ฟุต) ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส
            ค่าสูญเสียจากการสอดแทรกสำหรับช่องสัญญาณจะหาได้จากผลรวมของ
                    ก) ค่าสูญเสียจากการสอดแทรกของขั้วต่อ 4 ชุด
                    ข) ความสูญเสียจากการสอดแทรกของสายสัญญาณ 90 เมตร (295 ฟุต) ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส

ข้อกำหนดของการสูญเสียจากการสอดแทรกหาได้จากสมการต่อไปนี้
ค่าสูญเสียจากการสอดแทรกของช่องสัญญาณ = ค่าสูญเสียจากการสอดแทรกของขั้วต่อ 4 ชุด
           +  ค่าสูญเสียยจากการสอดแทรกของสายสัญญาณ 90 เมตร
           +  ค่าสูญเสียจากการสอดแทรกของสายต่อยาว 10 เมตร

ค่าสูญเสียจากการสอดแทรกของการเชื่อมต่อถาวร = ค่าสูญเสียจากการสอดแทรกของขั้วต่อ 3 ชุด
            +  ค่าสูญเสียจากการสอดแทรกของสายสัญญาณ 90 เมตร

            สำหรับสายต่อหรือสายเชื่อมอุปกรณ์อนุญาตให้มีค่าสูญเสียจากการสอดแทรกต่ำกว่ามาตรฐานของระบบสายสัญญาณแนวราบไม่เกิน 20 % ดังที่ระบุไว้ใน ANSI/TIA/EIA-568-B.2 ส่วนสายสัญญาณประเภทสายเอสซีทีพี สายตีเกลียวหุ้มฟรอยล์ อนุญาตให้มีค่าสูญเสียจากการสอดแทรกต่ำกว่ามาตรฐานของระบบสายสัญญาณแนวราบไม่เกิน 50 % ดังที่ระบุไว้ใน ANSI/TIA/EIA-568-B.2 ถ้ามีการใช้ตัวลดพิกัด (de-rating) ที่ 50 % จะต้องใช้สายต่อหรือสายเชื่อมอุปกรณ์สาย 8 เมตร (26 ฟุต)  เพื่อให้ค่าสูญเสียจากการสอดแทรกไม่เกินกำหนด ตัวอย่างค่าสูญเสียการสอดแทรกในกรณีที่เลวร้ายที่สุดในแต่ละความถี่สำหรับการเชื่อมต่อถาวรและสำหรับช่องสัญญาณจะแสดงไว้ในตารางที่ 2 และ 3

ตารางที่ 2     ความสูญเสียการสอดแทรกที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียล สำหรับโครงแบบการ
                      ทดสอบช่อง  สื่อความยาวของระบบเคเบิลแนวนอนคือ 90 เมตร (295 ฟุต) ความ
                      ยาวของสายต่อบริภัณฑ์  ชุดต่อสายและสายใยโยงคือ 10 เมตร (33 ฟุต)

ความถี่ (MHz)
สาย  CAT 3 (dB)
สาย  CAT 5e (dB)
1.0
4.0
8.0
10.0
16.0
20.0
25.0
31.25
62.5
100.0
4.2
7.3
10.2
11.5
14.9
-
-
-
-
-
2.2
4.5
6.3
7.1
9.1
10.2
11.4
12.9
18.6
24.0


หมายเหตุ  :  ข้อกำหนดความสูญเสียจากการสอดแทรกช่องสื่อของสาย CAT 3 ใช้ค่าความสูญเสีย 0.4 dB ต่ออุปกรณ์เชื่อมต่อแต่ละจุดที่ย่านความถี่ 1 ถึง 16 MHZ ข้อกำหนดอุปกรณ์เชื่อมต่อของสาย CAT 3 ใน  ANSI/TIA/EIA-568-B.2 กำหนดให้มีค่าเผื่อ (margin) เพิ่มเติมจากข้อกำหนดช่องสื่อ

ตารางที่ 3 ความสูญญเสียจากการสอดแทรกที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียลสำหรับโครงแบบการทดสอบเส้นทางสื่อถาวร ความยาวของระบบเคเบิลแนวนอนคือ 90 เมตร (295 ฟุต)

ความถี่ (MHz)
สาย  CAT 3 (dB)
สาย  CAT 5e (dB)
1.0
4.0
8.0
10.0
16.0
20.0
25.0
31.25
62.5
100.0
3.5
6.2
8.9
9.9
13.0
-
-
-
-
-
2.1
3.9
5.5
6.2
7.9
8.9
10.0
11.2
16.2
21.0


หมายเหตุ  : ข้อกำหนดความสูญเสียจากการสอดแทรกเส้นทางสื่อถาวรของสาย CAT 3 ใช้ค่าความสูญเสีย 0.4 dB ต่ออุปกรณ์เชื่อมต่อแต่ละจุด ที่ย่านความถี่ 1 ถึง 16 MHZ ข้อกำหนดอุปกรณ์เชื่อมต่อของสาย CAT 3 ใน  ANSI/TIA/EIA-568-B.2 กำหนดให้มีค่าเผื่อ (margin) เพิ่มเติมจากข้อกำหนดช่องสื่อ

            ค่าสูญเสียการสอดแทรกจะมีค่าเพิ่มขึ้นมาอุณหภูมิโดยที่จะเพิ่่มขึ้น 1.5 % ต่อองศาเซลเซียส
สำหรับสาย CAT 3 และ 0.4 % สำหรับสาย CAT 5e ซึ่งค่าสัมประสิทธิ์ของอุณหภูมิและอุณหภูมิสูงสุดจะระบุไว้ใน   ANSI/TIA/EIA-568-B.2

หมายเหตุ  :  1. เปอร์เซ็นต์แปรผัน (percent variation) ในเชิงปริมาณมักแสดงในหน่วย dB หัวข้อนี้ใช้เปอร์เซ็นต์แปรผันในค่า -dB
                    2. แม้ว่าคำว่าค่าลดทอนและความสูญเสียจากการสอดแทรกมักใช้สลับกันได้ ค่าลดทอนมีนัยว่าอิมพีแดนซ์การจบปลายสาย (terminating impedance) ที่อุปกรณ์ภายใต้การทดสอบเป็นอย่างเดียวกับอิมพีแดนซ์คุณลักษณะเฉพาะ (characteristic impedance) ของสายเคเบิล

11.2.4.5   ค่าการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดต้นสาย
            ค่าการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดต้นสายคือค่าการวัดสัญญาณที่เกิดจากการที่สายเส้นหนึ่งเหนี่ยวนำไปรบกวนสายอีกเส้นในสายสัญญาณคู่ตีเกลียว 100  โอห์ม และได้มากจากการวัดความถี่แบบกวาดและเพิ่มความถี่เป็นขั้นๆหรือเทียบเท่า ซึ่งค่าการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดต้นสายจะต้องวัดตาม ASTM  D    4566    และตามภาคผนวก ง. ของ   ANSI/TIA/EIA-568-B.2 ในการวัดจะวัดตั้งแต่ 1 MHz. ไปจนถึงความถี่สูงสุดที่ต้องการทดสอบ ค่าการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดต้นสายสามารถคำนวณได้มาจากสาการที่ 5 สำหรับช่องสัญญาณและสมการที่ 6 สำหรับการเชื่อมต่อถาวร สำหรับค่าการสูญเสียจากไม่พึงประสงค์ที่เหนี่่ยวนำจากจุดต้นสายที่มีค่าเกิน 60 dB จะเปลี่ยนเป็น 60 dB  สามารถดูตารางที่ 4 และ 5 เป็นข้อมูลได้

NEXT สายเคเบิล และ NEXT ขั้วต่อ คือ ความสูญเสียสัญญาณรบกวนข้ามคู่ที่จุดต้นสายของ
 สายสัญญาณและของอุปกรณ์การเชื่อมต่อตามลำดับ ดังที่ได้กำหนดไว้ใน ANSI/TIA/EIA-568-B.2
NEXT ช่องสื่อสาร = -20log(10NEXTcable + 2x10 NEXTconn)            dB   (5)


ตารางที่ 4    ความสูญเสียสัญญาณรบกวนข้ามคู่ที่จุดต้นสายคู่ต่อคู่สำหรับโครงแบบการทดสอบ ช่อง
                    สื่อ (คู่ต่อคู่ใรกรณีเลวร้ายที่สุด)

ความถี่ (MHz)
สาย  CAT 3 (dB)
สาย  CAT 5e (dB)
1.0
4.0
8.0
10.0
16.0
20.0
25.0
31.25
62.5
100.0
39.1
29.3
24.3
22.7
19.3
-
-
-
-
-
>60
53.5
48.6
47.0
43.6
42.0
40.3
38.7
33.6
30.1

NEXT เส้นทางการสื่อสารถาวร =  -20log(10NEXTcable + 10NEXTconn)       dB   


ตารางที่ 5 ความสูญเสียสัญญาณรบกวนข้ามคู่ที่จุดต้นสายที่คู่ต่อคู่สำหรับโครงแบบการทดสอบเส้นทางสื่อถาวร (คู่ต่อคู่ในกรณีเลวร้านที่สุด)

ความถี่ (MHz)
สาย  CAT 3 (dB)
สาย  CAT 5e (dB)
1.0
4.0
8.0
10.0
16.0
20.0
25.0
31.25
62.5
100.0
40.1
30.7
25.9
24.3
21.0
-
-
-
-
-
>60
54.8
50.0
48.5
45.2
43.7
42.1
40.5
35.7
32.3


 11.2.4.6 ค่าผลรวมของการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดต้นสาย
            ค่าผลรวมของการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดต้นสายคือค่าที่พิจารณาสายสัญญาณทางด้านต้นสายเกิดเหนี่ยวนำทำงานพร้อมกันทุกคู่ ซึ่งจำคำนวณตาม ASTM   D   4566  ดังที่แสดงไว้ในสมการที่ 7 (สำหรับสายคู่ตีเกลียว 4 คู่)

                PSNEXT  =  -10log(10-x1/10 + 10 -x2/10 +10-x3/10)              dB                   (7)
โดยที่
               X1, X2, X3,  เป็นการวัดการรบกวนข้ามแบบคู่ถึงคู่ (pair-to-pair crosstalk) ในหน่วยเป็น dB
               ระหว่างคู่ที่เลือกกับสามคู่ที่เหลือ

หมายเหตุ :  การคำนวณผลรวมกำลังของช่องสื่อและเส้นทางสื่อถาวร ให้ถือว่า ความสูญเสีย NEXT ของฮาร์ดแวร์การเชื่อมต่อคู่ต่อคู่ ตามข้อกำหนด ANSI/TIA/EIA-568-B.2   เทียบเคียงได้กับสมรรถนะความสูญเสีย PSNEXT เทียบเท่ากับ 40-20log (f/100)



            ค่าผลรวมของการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดต้นสายสำหรับสาย CAT 5  ที่ความถี่ตั้งแต่ 1 - 100 MHz จะเป็นไปตามสมการที่ 8 สำหรับช่องสัญญาณ และสมการที่ 9 สำหรับการเชื่อมต่อถาวรและถ้าค่าผลรวมของการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดต้นสายมีค่าเกิน 57 dB  จะปรับให้มีค่าเป็น 57 dB สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมมได้จากตารางที่ 6 และ 7 ส่วนสาย CAT 3 จะไม่มีค่าผลรวมของการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุต้นสาย

PSNEXTchannel  ≥ - 20 log(10PSNEXTcable + 2 x 10 PSNEXTcable )         dB  (8)
                                                                       20                                    20


ตารางที่ 6 ความสูญเสีย  PSNEXT ของสื่อสาร CAT 5e

ความถี่  (MHz)
CAT 5e  (dB)
1.0
4.0
8.0
10.0
16.0
20.0
25.0
31.25
62.5
100.0
>57
50.5
45.6
44.0
40.6
39.0
37.3
35.7
30.6
27.1

ความสูญเสีย  PSNEXT ที่เกินกว่า 57 dB ต้องกลับไปใช้ข้อกำหนดที่ 57 dB


PSNEXTpermanent_link  ≥ - 20 log(10PSNEXTcable + 2 x 10 PSNEXTcable )         dB  (9)
                                                                              20                                        20


ตารางที่ 7 ความสูญเสีย  PSNEXT  เส้นทางถาวรของ  CAT 5e

ความถี่  (MHz)
CAT 5e  (dB)
1.0
4.0
8.0
10.0
16.0
20.0
25.0
31.25
62.5
100.0
>57
51.8
47.0
45.5
42.2
40.7
39.1
37.5
32.7
29.3

ความสูญเสีย  PSNEXT ที่เกินกว่า 57 dB ต้องกลับไปใช้ข้อกำหนดที่ 57 dB

11.2.4.7  ค่าการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดปลายสาย
            ค่าการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดปลายสายคือค่าผลต่างระหว่างค่าของสัญญาณที่ถูกสายสัญญาณอื่นรบกวนโดยวัดที่ฝั่งปลายทางและค่าสูญเสียจากการสอดแทรก เป็นหน่วย dB ส่วนค่าผลรวมของการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากกจุดปลายสายคือ อัตราส่วนจากการเหนี่ยวนำจากสายทางด้านต้นทางที่ทำงานพร้อมกันทุกคู่ การวัดค่าการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดปลายสายจะต้องวัดทุกคู่ตามมาตรฐาน ASTM  D  4566  และตามภาคผนวก และตามภาคผนวก ง. ANSI/TIA/EIA-568-B.2

หมายเหตุ  : ข้อกำหนดสำหรับการคำนวณเส้นทางของช่องสัญญาณและการติดตั้งถาวรให้ไว้สมการของสายสัญญาณและอุปกรณ์การเชื่อมต่อ

            ค่าการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดปลายสายของสาย CAT 5 ที่ความถี่ 1 - 100 MHz จะต้องเป็นไปตามสมการที่ 10 สำหรับช่องสัญญาณ และสมการที่ 11 สำหรับการเชื่อมต่อถาวรสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากตาราง ที่ 8 และ 9  ส่วนสาย CAT  3 จะไม่มีค่าการสูญเสียจากสัญญาณไม่พึงประสงค์ที่เหนี่ยวนำจากจุดปลายสายของสาย

ELFEXTchannel,pair-topair ≥ - 20 log(10ELFEXTcable, pair-topair + 4 x 10 ELFEXTcable, pair-topair)      dB  (10)
                                                                                                      20                                                            20


ตารางที 8  ELFEXT  คู่ต่อคู่ ของช่องสื่อ CAT 5e  คู่ต่อคู่ที่เลวที่สุด

ความถี่  (MHz)
CAT 5e  (dB)
1.0
4.0
8.0
10.0
16.0
20.0
25.0
31.25
62.5
100.0
57.4
45.4
39.3
37.4
33.3
31.4
29.4
27.5
21.5
17.4


ELFEXTpermanentlink ≥ - 20 log(10ELFEXTcable, pair-topair + 3 x 10 ELFEXTcable, pair-topair)            dB  (11)
                                                                                  20                                             20


ตารางที่ 9 ELFEXT  คู่ต่อคู่ ของเส้นทางสื่อถาวร CAT 5e  คู่ต่อคู่ที่เลวที่สุด

ความถี่  (MHz)
CAT 5e  (dB)
1.0
4.0
8.0
10.0
16.0
20.0
25.0
31.25
62.5
100.0
58.6
46.6
40.6
38.6
34.5
32.6
30.7
28.7
22.7
18.6

ตารางที่ 13  ค่าความสูญเสียย้อนกลับของช่องสื่อ CAT 5e

ความถี่  (MHz)
CAT 5e  (dB)
1.0
4.0
8.0
10.0
16.0
20.0
25.0
31.25
62.5
100.0
17.0
17.0
17.0
17.0
17.0
17.0
16.0
15.1
12.1
10.0


ตารางที่ 14 ความสูญเสียย้อนกลับของเส้นทางสื่อสารถาวร  CAT 5e

ความถี่ (MHz)
CAT 5e (dB)
  1 ≤  ƒ < 20
19
20  ≤  ƒ ≤ 100
19 - 10log (ƒ / 20)
หมายเหตุ ƒ เป็นความถี่ในหน่วย MHz

ตารางที่ 15 ความสูญย้อนกลับของเส้นทางสื่อสารถาวร CAT 5e

ความถี่  (MHz)
CAT 5e  (dB)
1.0
4.0
8.0
10.0
16.0
20.0
25.0
31.25
62.5
100.0
19.0
19.0
19.0
19.0
19.0
19.0
18.0
17.1
14.1
12.0

11.2.4.10  เวลาที่สัญญาณใช้เดินทางจากปลายด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง
             เวลาที่สัญญาณใช้เดินทางจากปลายด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งคือเวลาที่สัญญาณ ใช้ในการแพร่กระจายปลายด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งซึ่งจะต้องวัดตามภาคผนวก ง. ของ ANSI/TIA/EIA-568-B.2 สำหรับความถี่ 1 - 100  MHz จะต้องไม่เกิน  2.5 นาโนวินาทีสำหรับจุดเชื่อมต่อหนึ่งจุด
            เวลาที่สัญญาณใช้เดินทางจากปลายด้านหนึ่งไปอีกด้านของทุกแคทีกอลีจะต้องไม่เกิน 555 นาโนวินาที เมื่อวัดที่ความถี่ 10 MHz สำหรับช่องสัญญาณ
            เวลาที่สัญญาณใช้เดินทางจากปลายด้านหนึ่งไปอีกด้านของทุกแคททีกอลีจะต้องไม่เกิน 498  นาโนวินาทีเมื่อวัดความถี่ 10 MHz สำหรับการเชื่อมต่อถาวร

11.2.4.11 ค่าการหน่วง
            ค่าการหน่วงคือเวลาที่สัญญาณใช้ในการเดินทางในสายสัญญาณที่เร็วที่สุดกับช้าที่สุดต่างกันเท่าไรโดยจะคำนวณจากผลต่างของเวลาที่สัญญาณใช้เดินทางจากปลายด้านหนึ่งไปอีกด้านที่เร็วที่สุดลบด้วยเวลาที่ช้าที่สุด โดยจะทำการวัดตามภาคผนวก ง. ของ ANSI/TIA/EIA-568-B.2 สำหรับจุดเชื่อมต่อถือว่าจุดเชื่อมต่อหนึ่งจุดจะมีค่าไม่เกิน 1.2 นาโนวินาที
            ค่าการหน่วงของทุกแคททีกอลีจะต้องไม่เกิน 50 นาโนวินาที สำหรับช่องสัญญาณ
            ค่าการหน่วงของทุกแคททีกอลีจะต้องไม่เกิน 44 นาโนวินาที สำหรับการเชื่อมต่อถาวร

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

10. ข้อกำหนดในการติดตั้งระบบสายสัญญาณภายหลังการติดตั้งคือสายสัญญาณ

10.1     ทั่วไป             สำหรับการติดตั้งนอกจากจะต้องดำเนินการตามมารตรฐานนี้แล้วยังต้องติดตั้งตามข้อกำหนดและระเบียบในการติดตั้งที่ถือปฎิบัติในแต่ละท้องที่อีกด้วย 10.1.1  การเดินสายสัญญาณแนวราบและสายสัญญาณหลัก             ควรจะเริ่มประเมินว่าจะติดตั้งสายสัญญาณได้ถูกต้องตามแบบที่ได้กำหนดไว้ และความเค้นในสายควรจะมีน้อยที่สุด (ความเค้นเกิดจากแรงดึงในการดึงและขึงสายสัญญาณ ในการติดดตั้งหรือการรัดสายเนื่องจากการมัดสาย) สายรัดสายสัญญาณที่ใช้รัดรวมสายสัญญาณควรจะรัดให้หลวมพอที่สายสัญญาณจะสามารถเลื่อนไปตามสายได้บ้าง ไม่ควรจะรัดจนสายเสียรูปไป (ต้องศึกษาข้อกำหนดการติดตั้งและกฎระเบียบก่อนการติดตั้ง) 10.2     สายตีเกลียว 100 โอห์ม (สายยูทีพี : สายตีเกลียวไม่มีชิลด์) หรือสายเอสซีทีพี  (สายตีเกลียวหุ้มฟอยล์) 10.2.1  รัศมีความโค้งงอที่ต่ำที่สุด             รัศมีความโค้งงอที่ต่ำที่สุดของสายสัญญาณจะขึ้นอยู่กับสภาพของสายสัญญาณขณะที่ทำการติดตั้งคือมีแรงดึงมากระทำกับสายสัญญ...

4. การติดต้้งระบบสายสัญญาณ

4.1       ทั่วไป             การติดตั้งสายสัญญาณแนวราบเป็นส่วนหนึ่งของการติดตั้งระบบสายสัญญาณที่ใช้ในการสื่่อสารคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม โดยเป็นการติดตั้งสายสัญญาณจากจุดรวมการสื่อสารไปยังเต้ารับ หรือขั้วต่อในพื้นที่ใช้งาน ซึ่งประกอบด้วยสายสัญญาณแนวราบ เต้ารับ การเชื่อมต่อสายเชือมต่อหรือสายต่อในจุดรวมการสื่อสาร และอาจจะถึงกลุ่มเต้ารับ หรือจุดศูนย์รวมเต้ารับก็ได้             (คำว่า "แนวราบ" ใช้กับสายสัญญาณที่เดินตามแนวราบหรือแนวนอนในขั้วหรือใต้ฝ้าของอาคาร)             การออกแบบการติดตั้งสายสัญญาณในแนวราบเทียบกับการใช้งานในระบบต่างๆ ดังนี้             ก) ระบบการสื่อสารทางโทรศัพท์             ข) อุปกรณ์ต่อเชื่อมระบบสลับสาย             ค) ระบบการสื่อสารผ่านคอมพิวเตอร์             ง) ระบบแลน (Local area Network)             จ)...

การคำนวณค่า Loss ของ Fiber Optic

ตัวอย่าง : (คำนวณที่ wavelength 1300 nm ตามมาตรฐาน TIA/EIA-568-B.3   ติดตั้งสาย Multimode 50/125 ohm ยาว 500 เมตร มีจุดต่อแบบ Splice 1 จุด ต่อ และมีจุดต่อแบบ Adapter 2 จุดต่อที่ Patch Panel ให้คำนวณหาค่า Loss                                              Limit                        Q’TY                          Loss Fiber Loss                          1.5 dB/km           ...