- การสูญเสียคาบเกี่ยวแหล่งกำเนิดที่เลวที่่สุดขนาด 4.7 dB ใช้เมื่อทำการคาบเกี่ยวเส้นใย 50/125 µm เข้ากับแหล่งกำเนิด LED ที่เหมาะสมกับการใช้เส้นกับเส้นใย 62.5/125 µm ความสูยเสียคาบเกี่ยวนี้ขึ้นกับค่าความสูญเสียคาบเกี่ยวสูงสุดทางทฤษฎี 10 BASE-FL กำหนดให้ 5.7 dB เป็นความสูญเสียคาบเกี่ยวสูงสุดกับเส้นใย 50/125 µm โทเค็นริง (token ring), FDDI (ราคาถูก), FDDI และ 100 BASE-FX กำหนดให้ 5.0 dB เป็นความสูญเสียคาบเกี่ยวสูงสุดกับเส้นใย 50/125 µm
- เครื่องหมาย "NST" คือ ไม่อยู่ในมาตราฐาน แสดงว่ามาตรฐานนี้ไม่กำหนดเป็นสายสัญญาณ ที่รองรับ แต่ปกติสายสัญญาณประเภทนี้จะมีอุปกรณ์เพื่อแปลงสัญญาณให้ใช้งานได้ตามที่ต้องการ
- การใช้งานกำหนดให้ใช้ สายใยแก้วนำแสง 62.5/125 µm ด้วยแถบความถี่ 200 MHz*km ที่ 850 nm
- การปรับปรุงระบบสายใยแก้วนำแสงโดยใช้ FC-PH-2 ทำให้สามารถติดตั้งได้ 300 เมตร (984 ฟุต) (FC-PH-2 คือ Fiber Channel Physical Interface 2 เป็นสื่อชนิดหนึ่ง)
- สำหรับเส้นใย 62.5/125 µm กำหนด 220 เมตร (721 ฟุต ) สำหรับ แบนด์วิธ 160/500 MHz*km และ 275 เมตร (902 ฟุต) สำหรับ แบนด์วิธ 200/500 MHz*km
- สำหรับเส้นใย 50/125 µm IEEE กำหนด 500 เมตร (1640 ฟุต) สำหรับ แบนด์วิธ 400/400 MHz*km และ 550 เมตร (1804 ฟุต) สำหรับ แบนด์วิธ 500/500 MHz*km
- กำลังแสง และระยะในการติดตั้งขึ้นอยู่กับการเลือกอุปกรณ์ที่ใช้ส่งและรับข้อมูล ดังนั้นการเลือกกำลังแสงที่ใช้สูงจะใช้ได้กับระยะทางที่ต้องการ
- การเลือกใช้ประเภทของเลเซอร์ หากไม่ได้ระบุประเภทของเลเซอร์ที่ใช้กับงานกับสายใยแก้วนำแสงแบบมัลติโหมดจะใช้เป็น LED-based
- ค่าลดทอนสูงสุดขึ้นกับความสูญเสียสอดแทรกของช่องสื่่อบวกกับส่วนที่ไม่ได้จัดสรรไว้จาก IEEE 802.3z
- ระยะทางสำหรับการติดตั้งเฉพาะงานควรจะตรวจสอบกับมาตราฐานการใช้งาน
สำหรับระบบที่ติดตั้งอยู่แล้ว ค่าลดทอนสายสัญญาณควรตรวจสอบตามวิธีการทดสอบในหัวข้อที่ 11.3 ของมาตรฐานนี้ สำหรับระบบที่ติดตั้งใหม่ การออกแบบระบบสามารถตรวจสอบระบบโดยใช้สมการสมการข้างล่างนี้ บนพื้นฐานของข้อกำหนดต่ำสุดของส่วนประกอบที่กำหนดโดยมาตรฐานนี้และ ANSI/TIA/EIA-568-B.
ค่าลดทอนช่องสัญญาณ ≤ ค่าลดทอนช่องสัญญาณสูงสุด (จากตารางที่ จ-1) (จ-1)
ค่าลดทอนช่องสัญญาณ = ค่าลดทอนสายสัญญาณ + การสูยเสียสอดแรกขั้วต่อ
+ การสูญเสียสอดแทรกสไปซ์ (จ-2)
ค่าลดทอนช่องสัญญาณ = [สัมประสิทธิ์การลดทอนของสายสัญญาณ (dB/km)
x ระยะทาง (km)] + [จำนวนของสไปซ์ x 0.3 dB]
+ [จำนวนจุดเชื่อมด้วยขั้วต่อ x 0.75 dB] (จ-3)
ดังนั้นสมการสุดท้ายในการหาระยะทางสูงสุดสำหรับการออกแบบระบบเฉพาะ คือ ความยาวสูงสุด (km)
= (ค่าการลดทอนช่องสื่อสูงสุด - [ จำนวนคู่ขั้วต่อ x 0.75 dB] + [จำนวนของจุดต่อสไปซ์ x 0.3 dB])
สัมประสิทธิ์การลดทอนของสายสัญญาณ
ความยาวสูงสุดที่คำนวณได้ ≤ ระยะทางที่ใช้งานได้สูงสุด (จาก ตาราง จ - 1)
สัมประสิทธิ์การลดทอนของสายสัญญาณสูงสุดที่กำหนดโดยมาตรฐานนี้และ ANSI/TIA/EIA -568-B.3 ได้แสดงไว้ในตารางที่ จ-2
ตารางที่ จ-2 สัมประสิทธิ์ค่าลดทอนสายสัญญาณสูงสุด
ความยาวคลื่น
(nm)
|
62.5/125
µm
|
50/125
µm
|
โหมดเดี่ยว
|
850
|
3.5
dB/km
|
ไม่ใช้
|
|
1300
|
1.5dB/km
|
0.5
dB/km (สายสัญญาณ
|
|
นอกอาคาร)
|
|||
1.0
dB/km (สายสัญญาณ
|
|||
นอกอาคาร)
|
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น